GAI

GAI (ชื่อเกิด: โจวเหยียน) เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2530 ที่อำเภอเวยหยวน มณฑลเสฉวน เป็นศิลปินฮิปฮอปที่ถือเป็นผู้บุกเบิกแนวทางใหม่ของวงการแร็ปจีน เขาเชี่ยวชาญในการผสานองค์ประกอบดั้งเดิมเข้ากับสไตล์ฮิปฮอปร่วมสมัย ผลงานเด่นอย่าง "ฮั่วเซีย"(华夏) และ "ม้าไฟสงคราม"(烈火战马) ได้สร้างภาพลักษณ์ทางดนตรีแบบจีนร่วมสมัย ด้วยการใช้ทำนองแบบจีนโบราณผสานกับสำเนียงเฉพาะของภูมิภาคเสฉวนและฉงชิ่ง จนเกิดเป็น Jianghu Style(江湖流)ที่ทรงเอกลักษณ์ จนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำแห่งยุคใหม่ของแร็ปจีน ปี พ.ศ. 2560 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขา ด้วยการคว้าแชมป์รายการ The Rap of China (中国有嘻哈) ซึ่งเป็นรายการฮิปฮอปที่สร้างปรากฏการณ์ในวงกว้าง ชัยชนะครั้งนั้นไม่เพียงนำพาแร็ปจีนสู่สายตาสาธารณะ แต่ยังเปิดทางให้เขาได้ยืนบนเวทีชั้นนำ อาทิ Singer 2018 และ Call Me by Fire ความสามารถในการผสมผสานแร็ปเข้ากับป็อป ร็อก และแนวดนตรีอื่นๆ ได้อย่างลงตัว ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “นักร้องอัจฉริยะที่ถูกแร็ปกลบชื่อเสียง” ในฐานะแกนหลักของวงการแร็ปจีน GAI ยังคงเป็นผู้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการอย่างต่อเนื่อง เขาได้รับรางวัล “นักร้องแร็ปยอดเยี่ยม” จากงาน Top East Music Chart (东方风云榜) ครั้งที่ 29 และคว้ารางวัล "นักร้องแร็ปแห่งปี" จากงาน Weibo Music Awards ติดต่อกันถึง 4 ปี ผลงานเพลงประจำฤดูกาลจากรายการ The Treasured Voice 4(天赐的声音4) ได้พิสูจน์ถึงพลังสร้างสรรค์ทางดนตรีที่ไม่หยุดนิ่ง จากการคว้ารางวัล MVP รายบุคคลจากรายการ “Rap of China: Peak Battle” ไปจนถึงการเป็นเมนเทอร์ใน Rap Dream Factory (说唱梦工厂) เขายังคงเดินหน้าส่งต่อวัฒนธรรมแร็ปจีนในหลายบทบาท นอกเวที GAI ก็ยังเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลสูงในวงการ เขาได้รับเชิญขึ้นเวทีเทศกาลดนตรีใหญ่ๆ หลายร้อยงานในฐานะศิลปินหลัก ซึ่งสะท้อนถึงพลังการตลาดอันแข็งแกร่ง ในปี พ.ศ. 2567 เขาได้ร้องเพลงธีมภาพยนตร์ "นักแข่งจีน จ้าวกวนหยู่"(中国车手周冠宇) ด้วยบทเพลง “ONE” แสดงถึงการขยายขอบเขตทางดนตรีไปสู่สายภาพยนตร์ ในปีเดียวกัน เขายังคว้ารางวัล “ศิลปินแร็ปแห่งปี” จากงาน Hip-Hop Fusion Awards ครั้งที่ 12 ยิ่งตอกย้ำความมั่นคงในตำแหน่งผู้นำของวงการ ปี พ.ศ. 2568 เขากลับมาอีกครั้งในรายการ Singer 2025 พร้อมความสามารถทางดนตรีที่ลุ่มลึกยิ่งขึ้น ศิลปินผู้เดินออกมาจากผืนดินเสฉวนและฉงชิ่งคนนี้ กำลังเขียนตำนานบทใหม่ให้กับแร็ปจีน ผ่านการแสดงมากกว่า 10 รายการวาไรตี้ และทัวร์คอนเสิร์ตอีกหลายสิบรอบในแต่ละปี จากเวทีใต้ดินสู่สปอร์ตไลต์ระดับประเทศ เขาใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า จิตวิญญาณของ Jianghu นั้น จะคงอยู่เสมอเมื่อมีความสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการยืนหยัดในรากเหง้า