สุรพล สมบัติเจริญ

สุรพล สมบัติเจริญ 52 ปี แห่งความหลัง ของครูเพลงสุรพล ครึ่งศตวรรษ กลับการจากไปของ ครูเพลง ราชาเพลงลูกทุ่ง “สุรพล สมบัติเจริญ” ถูกย้ำเตือนกันทุก ๆ ปี เมื่อถึง 16 สิงหาคม เวียนมมาคราใด ให้นึกถึงมาดเท่ห์ หน้าเข้มๆ รอยยิ้มหวานๆ โดยเฉพาะ “ลูกคอ” เอกลักษณ์ ที่ไม่มีใครเหมือน เพลง 16 ปีแห่งความหลัง คือเพลงสุดท้ายที่ ครูเพลงสุรพล ได้บันทึกเสียง ปี 2510 และเป็นเพลงสุดท้ายที่ร้องบนเวที ณ. บริเวณหน้าวิกแสงจันทร์ หน้าวัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในคืนวันที่ 16 สิงหาคม 2511 อีกด้วย เมื่อการแสดงด้านหน้าเวที จบลง ครูสุรพล เดินลงจากเวทีเพื่อมาขึ้นรถ ขณะนั้นคนร้ายก็บุกเข้ามาจ่อยิง ครูสุรพล เสียชีวิตในคืนนั้น เวลา 01.00 น ย้ำประวัติ ครูเพลงสุรพล นายลำดวน สมบัติเจริญ เกิดเมื่อ 25 กันยายน 2473 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่ 2 ในพี่น้อง 6 คน ของคุณพ่อเปลื้องและคุณแม่วงศ์ สมบัติเจริญครอบครัวมีฐานะค่อนข้างดี สมรสกับนางศรีนวล สมบัติเจริญ มีบุตร-ธิดา 5 คน การศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนประสาทวิทย์ ชั้นมัธยมที่โรงเรียนกรรณสูตศึกษาวิทยาลัย และสุรพล สมบัติเจริญต่อทางสายวิชาชีพช่างก่อสร้างอุเทนถวายแต่เรียนไม่จบหลักสูตร จึงทำให้ชีวิตเปลี่ยนทิศทาง เส้นทางชีวิตของ ครูเพลงสุรพล ลำดวน สมบัติเจริญ ต้องเปลี่ยนเข็มทิศด้วยการเริ่มฝึกฝนการร้องเพลง แต่งเพลงด้วยตนเอง และได้มีโอกาสเรียนอย่างจริงจังในกองดุริยางค์ทหารอากาศ ยังได้ เบญจมินทร์ ยอดนักร้องและแต่งเพลง “ตุ้มทอง โชคชนะ”ที่ยึดไว้เป็นแม่แบบ ได้รับการชักนำและสนับสนุนให้สุรพล สมบัติเจริญเป็นนักร้องวงดุริยางค์ทหารอากาศ โดย เรืออากาศตรีปราโมทย์ วรรณพงษ์ ลำดวน สมบัติเจริญ ยังได้รับโอกาสมากมายจากบุตรชายคนโตของห้าง ต.เง็กชวน สนับสนุนให้บันทึกแผ่นเสียงเป็นครั้งแรก มีครูพยงค์ มุกดา ให้คำปรึกษาชี้แนะให้ตั้งวงดนตรีเป็นของตัวเอง โดยมีนายห้างอารยะโอสถตรามือ เป็นผู้อุดหนุนเงินทุนทั้งหมดให้ตั้งวงดนตรีเป็นครั้งแรก ฉายา ราชาลูกทุ่ง เริ่มบันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี 2496 ในนามชื่อ สุรพล สมบัติเจริญ ทุกเพลงของ ครูสุรพล มีนัยยะ แทบทุกเพลงเพราะ นึกอะไรได้ ครูสุรพล ก็แต่งและร้องเดี๋ยวนั้น สุรพล สมบัติเจริญ มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทุกภาคของประเทศไทย นักร้องในสมัยนั้นยังไม่มากเหมือนทุกวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่มีแฟนเพลงได้จดจำ ครูเพลงท่านนี้เป็นอย่างดี และลืมเลือน ขอรำลึกถึงครูเพลง “สุรพล สมบัติเจริญ”