Julio Iglesias Jr.

Julio Iglesias Jr. (小胡立欧) เกิดในเมืองมาดริด ประเทศสเปน แต่เขาเติบโตในไมอามี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการผสมผสานทางดนตรีและวัฒนธรรมทางสังคม เช่นเดียวกับความรู้สึกที่ไมอามีมอบให้ ดนตรีของ Julio Iglesias Jr. ก็เปล่งประกายความเร่าร้อนและความหลากหลาย เขานำเพลงป๊อปแดนซ์ที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ จังหวะฟังก์ที่เร้าใจ การสอดแทรกจังหวะเทคโนบางครั้ง และการเรียบเรียงเสียงประสานที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงกอสเปล มาหลอมรวมกันเป็นจังหวะเพลงสากล ดนตรีของ Julio Iglesias Jr. ไม่มีขีดจำกัดทางพรมแดน แม้ว่าเขาจะร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษ แต่ดนตรีของเขากลับใช้ภาษาสากลพิชิตใจแฟนเพลงทั่วโลก สร้างสรรค์จังหวะที่เย้ายวน Julio Iglesias Jr. ในวัย 25 ปี แท้จริงแล้วไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับชีวิตภายใต้แสงสปอตไลต์ ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นอาชีพนักดนตรีอย่างเต็มตัว เขาก็เป็นนายแบบและนักแสดงโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว หลังจากที่ช่างภาพชื่อดัง Bruce Weber ได้เห็นภาพถ่ายของ Julio Iglesias Jr. กับครอบครัว เขาก็ตัดสินใจเชิญเขาให้เป็นนายแบบให้กับ Versace ทันทีและยังคงเป็นมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนช่างภาพแฟชั่นชื่อดังอีกคนอย่าง Mario Testino ก็ทาบทามอย่างหนักให้เขาเป็นนายแบบโฆษณาให้กับแบรนด์ Gap หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าอันโดดเด่นของ Julio Iglesias Jr. ที่ขึ้นกล้องเป็นอย่างมาก ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ที่ซานฟรานซิสโก Julio Iglesias Jr. ได้เข้าร่วมออดิชันสำหรับละครโทรทัศน์ของช่อง NBC ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นเรื่อง "Out Of The Blue" และต่อมาก็ได้รับเลือกให้แสดงในละครเรื่องนั้น แม้ว่าในเวลาต่อมาจะมีละครน้ำเน่าของอเมริกาเรื่องหนึ่งต้องการทาบทามให้เขาแสดง แต่ด้วยการพิจารณาว่าอาชีพนักร้องมาเป็นอันดับแรก Julio Iglesias Jr. จึงปฏิเสธทางลัดสู่ชื่อเสียงเส้นทางนี้ หลังจากกลับมาที่ไมอามี Julio Iglesias Jr. ก็ทุ่มเทให้กับความเชี่ยวชาญของเขา (กีตาร์ การร้องเพลง การแต่งเพลง และการบันทึกเสียง) เขาเริ่มร่วมงานกับ Rodolfo Castillo เพื่อนสนิทซึ่งเป็นทั้งโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลง โดยใช้แนวคิดทางดนตรีที่เรียบง่ายและวิธีการบันทึกเสียงที่แสดงออกถึงภาษาดนตรีของเขาอย่างอิสระไร้ข้อจำกัด เพื่อสร้างสรรค์ผลงานอัลบั้มแรก "Under My Eyes" ในอัลบั้มนี้ ผู้ฟังจะได้สัมผัสถึงเสียงร้องของ Julio Iglesias Jr. ที่นุ่มนวลราวกับผ้าไหม แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหยาบกร้านแบบผู้ชาย เสียงกระซิบของเขากระตุ้นให้เกิดความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนและความรักความผูกพันในอดีต ซิงเกิลแรกในอัลบั้มอย่าง "One More Chance," "Anything" และเพลงคลาสสิกอย่าง "If" ที่ถูกเรียบเรียงให้มีกลิ่นอายของอิเล็กทรอนิกส์หม่นหมอง ล้วนแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวทางดนตรีและสายเลือดนักดนตรีที่มิอาจลบเลือนในตัวเขา