ทรานฟอร์มเมอร์ จีน กษิดิศ : Born to be Blonde
ถือเป็นศิลปินอีกคนที่นั่งแท่น “ขุ่นแม่” ในใจหลายๆ คนไปแล้ว สำหรับ จีน กษิดิศ ด้วยผลงานการสร้างสรรค์ดนตรีสุดล้ำ ที่สามารถเปิดในปาร์ตี้แซ่บๆ พร้อมโยกได้สุดเหวี่ยง หรือจะเป็นเพลงซับน้ำตาคนอกหักแบบไม่ฟูมฟาย กับการแต่งตัวสุดเปรี้ยวที่พร้อมจะกระชากสายตาจากคนทั้งงานให้หันมอง
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ “จีน กษิดิศ” กันมา แล้ว “จีน ฟูตอง” ละคือใคร? ทำไมผมทองเหมือนกัน เอ๊ะ! คนเดียวกันรึเปล่า? เอาล่ะ!! เราจะมาไขความลับสวรรค์ของศิลปินมากความสามารถคนนี้กัน
จุดเริ่มต้นของเด็กหนุ่มจากจังหวัดแพร่
ถ้าจะให้ไล่เรียงไทม์ไลน์การเดินทางของศิลปินคนนี้ คงต้องเริ่มจาก “เด็กชาย กษิดิศ สำเนียง” ด้วยพื้นเพจากจังหวัดแพร่ ที่เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ความประพฤติดี เป็นเด็กกิจกรรม จนกระทั่งโตมาจึงได้ย้ายเข้ามาเรียนเตรียมเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จึงมีโอกาสได้เข้าไปทำงานใน “ทาวเวอร์เร็คคอร์ด” ร้านขายเทปซีดีชื่อดังในยุคนั้น สำหรับเรื่องการแต่งตัว ก็น่าจะพูดได้ว่ายังไม่พบแนวทางของตัวเอง แต่งตัวปอนๆ เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ เป็นลุคที่ทำให้เราไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า “นี่พี่จีนจริงเหรอวะ!!!”
เข้าสู่ยุค Futon
การได้ทำงานที่ร้านทาวเวอร์เรคคอร์ด ทำให้จีนเกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นนักร้องขึ้นมา ประกอบกับได้รับการชักชวนให้เข้าออดิชั่นวง Futon รุ่นบุกเบิก ในฐานะนักร้องนำของวงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิคแคลช ที่ทำเพลงได้เปรี้ยวปรี้ด ถูกใจทั้งสายปาร์ตี้และสายอินดี้สาวก Fat radio โดยวงมีผลงานออกมาให้ได้ฟังกัน 4 อัลบั้ม เพลงที่น่าจะพอเคยได้ยินกันบ้าง น่าจะเป็น I wanna be your dog, Guessing games และ Talk of the town ส่วนผสมที่แปลกใหม่ของตัวเพลงนี้ มาจากการที่ในวงมีสมาชิกหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ ทำให้วงผลิตผลงานเก๋ๆ ออกมาจนดังระเบิดไปถึงต่างประเทศกันเลยทีเดียว
ด้วยแนวทางของวงตอนนั้น จะมีลุคดาร์ก หม่นๆ เท่ห์ๆ และความเป็นนักร้องนำของวงที่ต้องนำเสนอภาพลักษณ์ของวงออกมาให้ชัดเจน ทำให้ จีน ฟูตอง ในช่วงนั้นแต่งตัวแนวพังก์ๆ ขอบตาดำ เสื้อดำ สลับกับเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ยังคีปลุค metrosexual อยู่ โดยเขาเริ่มย้อมผมสีบลอนด์ในช่วงเป็นนักร้องนำตั้งแต่อัลบั้มแรก และดูเหมือนจะติดใจความบลอนด์นี้มาก ทำให้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในวงการ ผมสีบลอนด์กลายเป็นซิกเนเจอร์ลุคประจำตัวจีนไปแล้ว
ศิลปินเดี่ยว อัลบั้มแรก Affairs
หลังจากออกจาก Futon ได้ไม่นาน จีนก็เดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวในชื่อ “จีน กษิดิศ” พร้อมออกอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกที่มีชื่อว่า “Affairs” หากว่าด้วยเรื่องทางดนตรีนั้น อาจจะไม่ได้ช็อคแฟนเพลงซักเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้ฉีกจากเดิมมากนัก
แต่สิ่งที่ทำให้แฟนเพลงบางคนถึงกับหวีดร้อง ด้วยลุคหนุ่ม Metrosexual สมัยอยู่ Futon ก็ยังทำให้คนก้ำกึ่งว่ายังไงดี มีความคลุมเครือ แต่พอได้ออกมาทำอัลบั้มเดี่ยวเท่านั้นแหละ โอ้ก๊อดดดด!!! ขุ่นแม่ของเราจัดหนัก โนสนโนแคร์ที่แท้จริง ชั้นจะแต่งหญิง จะสะบัดปลายอายลายเนอร์จากตาถึงหางคิ้ว จะทาลิปสีแดงเลือดนก ใครจะทำไม จะเกี่ยวต่างหูยาวถึงบ่า จะโขกส้นสูง 6 นิ้ว ขึ้นเวที และที่ขาดไม่ได้คือผมสีบลอนด์เอกลักษณ์ประจำตัวเค้าล่ะ!
อัตลักษณ์ที่เริ่มชัดเจนกับ BLONDE
หลังจากความสำเร็จจากอัลบั้มแรก ไม่น่าเกินรอ BLONDE อัลบั้มลำดับที่สองก็คลานตามมา ทั้งแนวเพลงและการแต่งตัว ให้ความรู้สึกออกแนวสว่างๆ ทองๆ สมชื่อมาก ซึ่งหลังจากเปิดตัวเองไปอย่างไม่กั๊กแล้ว จีน กษิดิศก็ไม่หยุดที่จะผลักตัวเองไปในอีกขั้น ขุ่นแม่ก็เริ่มที่จะหยิบเสื้อผ้าของผู้หญิงมาผสมผสานกับแนวทางของตัวเองได้อย่างไม่เคอะเขิน ทั้งยังเพิ่มความอลังและรุ่มรวยขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องการแต่งหน้าเหรอ อะไรที่ดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม ลุคเดิมนี่แหละฆ่าตายยกฟลอร์ กับการฟาดปากสีแดงฉาน ถมตาดำขลับ และให้สมชื่อกับอัลบั้มชื่อ blonde ถ้าผมจะไม่สีบลอนด์ก็คงจะไม่ได้ ไม่ว่าจะออกงาน ขึ้นคอนเสิร์ต หรือเห็นตามห้างสรรพสินค้าย่านพร้อมพงษ์ ขุ่นแม่ก็ยังคงผมสีบลอนด์ตั้งแต่โคนจรดปลาย โคนดำนี่แทบไม่ได้เห็น เอาไปเลยค่ะตำแหน่งนายกสมาคมคนผมบลอนด์แห่งประเทศไทย ต้องเป็นของพี่จีนเท่านั้น
สำหรับขุ่นแม่จีน บอกเลยว่าเป็นศิลปินที่เราตามได้ไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงที่เฉียบขาด ทั้งเนื้อหา ทั้งดนตรี คุณภาพคับแก้ว รวมถึงการแต่งตัวที่ทำชวนให้อยากรู้จริงๆ ว่า ขุ่นแม่ไปได้มาจากไหน ทำไมมันอลังการ วิววับ กลิตเตอริ่ง พริ้วพราว ได้ขนาดนี้ และเราเชื่อว่า จีน กษิดิศ จะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ๆ รับรองได้เลยว่า อัลบั้มหน้าเธอต้องทำให้แฟนๆ ตกอกตกใจได้อีกชัวร์ๆ ไม่แน่อัลบั้มหน้าอาจจะกลับไปแต่งบอยเหมือนเดิม ย้อมผมดำ เปลือยหน้าสดขึ้นเวที เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบ David Bowie ก็ได้ใครจะไปรู้
สำหรับใครที่อยากอัพเดทไลฟ์สไตล์ของพี่จีนละก็ ติดตามได้ที่ IG @genekasidit เลยจ้า รับรองไม่ผิดหวังในความเริ่ดของขุ่นแม่แน่ๆ xoxo
ขอขอบคุณภาพจาก FB/GENE KASIDIT
