ฟังก่อนใคร! ซิงเกิลใหม่ล่าสุด  “การเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย" จาก โอ้ เสกสรรค์

ฟังก่อนใคร! ซิงเกิลใหม่ล่าสุด “การเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย" จาก โอ้ เสกสรรค์

โอ้ เสกสรรค์ กลับมาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ล่าสุด “การเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย” ที่มาของเพลงมาจากความรักในอดีตของ โอ้ เสกสรรเลยก็ว่าได้ หากใครคิดถึงเขา เรามีบทสัมภาษณ์เล็กๆมาให้ได้ดูกันค่ะ!

Q : ช่วงที่ผ่านมาว่าหายไปไหนมาและทำอะไรมาบ้าง?

A : จริงๆ แล้วไปร้องเพลงเยอะมาก คนถามว่าหายไปไหน ไม่ได้หายไปไหน พี่ยังคงร้องเพลงอยู่ครับ จริงๆ ถ้าคนไม่เคยเจอก็จะนึกว่าโอ้หายไปไหน แต่ยังเล่นดนตรีร้องเพลงให้ทุกคนฟังอยู่ แค่ไม่ได้มาเจอกันเท่านั้นเอง พวกงานอีเว้นท์คอนเสิร์ต และมีร้องประจำอยู่แล้วด้วย งานหลักก็คือคอนเสิร์ตๆ มันก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ นะ เหมือนกับคนที่เคยฟังเพลงเราสมัยก่อน สมัยเด็กๆ วัยรุ่น ตอนนี้เขาโตมาเป็นเจ้าของร้านก็จะนึกถึงเราก็จะมีงานจ้าง อีกอย่างพี่ก็ทำเบื้องหลังด้วย ล่าสุดทำเบื้องหลังให้กับศิลปินในโมโนด้วยเหมือนกันครับ

Q : จุดเริ่มต้นที่มาร่วมงานกับโมโน?

A : พี่ไปเจอพีธโดยบังเอิญ พอดีว่ามีเพลงนี้ที่แต่งเก็บไว้อยู่แล้ว เลยเอามาให้พีธลองฟังดูปรากฏก็ชอบเลยครับ ด้วยความบังเอิญพีธก็บอกว่ามีโปรเจคท์ของ Pitch Music ที่จะดึงเอาศิลปินมาทำเพลงกับค่ายโมโน มิวสิค ซึ่งผมก็ดีใจมาก เพราะเห็นว่าทางโมโนเปิดกว้างในเรื่องนี้อยู่แล้ว ดีใจมากครับที่ได้มาร่วมงานด้วยกัน

default column 1205x682 img

Q : ได้ข่าวว่าเพลงนี้แต่งเก็บไว้นานแล้ว ช่วยเล่าที่มาหน่อยให้ฟังหน่อยค่ะ

A : เพลงนี้ชื่อว่า “การเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย” จริงๆ เพลงนี้แต่งไว้ประมาณ 4 ปีแล้วครับ ทุกครั้งที่ไปเล่นคอนเสิร์ตก็จะหยิบเพลงนี้ขึ้นมาเล่นตลอดเลย จนทุกคนบอกว่าเพลงนี้น่าจะเอามาปล่อยได้แล้วนะ ผ่านมานานมากจนผมเองก็รู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้ปล่อยเป็นซิงเกิลจนผ่านมา 4 ปีล่ะ มาสเตอร์มันเสร็จไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่จังหวะมันยังไม่ได้สักที บางทีก็ไปทำเบื้องหลังบ้างอะไรบ้างก็เลยไม่มีเวลามาเต็มที่กับมัน จนมาวันนี้ได้ปล่อยแล้วมันก็เหมือนเป็นการเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย แต่คราวนี้น่าจะถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้สักทีครับ

Q : ที่มาของเพลงนี้ กลั่นกรองมาจากประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริงของพี่โอ้เลย?

A :ใช่ครับ เป็นความรักในอดีตนะครับ ตอนนี้ผมมีครอบครัวแล้ว แต่งงานมา 3 ปีแล้วแฮปปี้ดีทุกอย่าง (ยิ้ม) แค่รู้สึกว่าอยากทำเพลงอกหักก็เลยหยิบมุมในความทรงจำครั้งหนึ่งที่มันเคยเกิดกับเรามาถ่ายทอด ย้อนไปเมื่อก่อนผมเคยมีแฟนคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก เราคบกันโดยที่ไม่เคยเจอกันเลย ก็คบกันโดยที่คุยกันทุกวันแต่ว่ายังไม่เคยเจอกัน คิดว่ารอสักปีหนึ่งแล้วกัน ถ้าเรายังไม่ได้เจอกันอีก คงต้องทบทวนกันใหม่แล้วว่าจะเอายังไงดีก็เลยคุยกันครับว่าถ้าไม่เจอกันก็อย่าไปต่อดีกว่าก็จบกันด้วยดีนะ เราเป็นฝ่ายบอกเลิกเขา มันก็เหมือนอกหักนะ เพราะเราต้องไปบอกเขาทั้งๆ ที่เรายังแคร์เขาอยู่ หลังจากนั้นก็เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมา เหมือนในเพลงเลยที่พูดถึงเส้นทางที่เราเลือกกันเดิน มันเป็นเส้นทางที่ไม่มีจุดหมายและเหมือนเส้นขนานที่มันไม่มีวันมาเจอกัน เพราะฉะนั้นเราเปลี่ยนเส้นทางต่างคนต่างไป ต้องหยุดตรงนี้ก่อนเพื่อออกไปดูเส้นทางใหม่เผื่อมันจะดีกว่า

default column 1205x682 img

Q : เพลงนี้จะบอกเล่าเนื้อหาอะไรเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังแต่ไม่ดราม่ามาก?

A : พูดเรื่องความรักที่มีสมหวังไม่สมหวังบ้าง แต่ถ้าเรารู้แล้วว่าจุดที่เรายืนอยู่มันไปต่อไม่ได้ก็อย่าไปพยายาม ควรเบรคความสัมพันธ์แล้วต่างคนต่างลองไปค้นหาชีวิตใหม่กันดีกว่า บางทีการบอกเลิกกันอาจจะเป็นทางที่ดีที่สุดก็ได้ การเลิกกันมันก็ต้องเสียใจทั้งสองฝ่าย มีคนที่ต้องเสียใจ มีคนที่ต้องฝืนใจ มีคนที่ต้องใจร้าย เพื่อการเดินทางครั้งใหม่ เราจึงต้องหยุดการเดินทางที่ไม่มีหยุดหมายก่อนที่จะไปต่อเราก็ต้องหยุดตรงนี้ก่อน ความหมายของเพลงก็จะมาพีคที่ตรงนี้ อยากให้มองความรักมีหลายด้านบางคู่ก็รักกัน ทะเลาะกันแต่ก็ยังรักกันได้ดี บางคู่ไม่เคยทะเลาะกันเลยแต่มีเรื่องของมือที่สามเข้ามามันก็อาจทำให้ความรักพังทลายลงก็ได้

Q : สำหรับเพลงนี้คือการฉีกสไตล์การร้องและดนตรีไปจากเดิมด้วย ช่วยเล่าฟังหน่อย

A : สไตล์เพลงเป็นป็อบร็อค มีความเป็นร็อคมากขึ้น แต่ไม่ใช่เป็นร็อคหนักมาก มีซาวด์ของกีต้าร์ไฟฟ้ามาผสมมากขึ้น แต่ก็ยังมีกีต้าร์โปร่งนำอยู่ในเพลง พี่ได้เอาตัวตนของตัวเองมาใส่ไว้ในเพลงนี้ ซึ่งเมื่อก่อนเราเป็นมือกีต้าร์โซโล่ พี่โตมากับดนตรีร็อค พื้นฐานเป็นคนที่เล่นดนตรีร็อคมาก่อน ร็อคหนักมากเป็นแนวเดรสเมทัลเลยครับ เคยไปเล่นตามคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรีอินดี้ เคยทำวงแนวกรั้นอยู่ช่วงหนึ่งด้วย เพลงสไตล์นี้มันมีอยู่ในอัลบั้มของพี่ตลอด ส่วนใหญ่จะซ้อนไว้หน้า B นะ ยุคเทป ยุคซีดี เวลาเขียนเพลงก็จะแปลกใจว่าทำไมเราเขียนเพลงออกมาเป็นเพลงหวานน่ารักด้วยเมโลดี้ คือไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับ แต่ในเพลงนี้มันเหมือนดึงเอาความเป็นร็อคออกมาใช้ นอกจากนี้ยังได้ผู้หญิงมาร่วมร้องฟีเจอริ่งด้วย เพิ่มให้เพลงมีเสน่ห์มากขึ้น อย่างท่อนฮุกก็จะบอกว่ามีคนที่ต้องเสียใจ มีคนที่ต้องร้องไห้ แต่เราจะพบรักใหม่...

Q : เรียกได้กว่ากลับมาครั้งนี้เปลี่ยนแนวของตัวเองไปจริงๆ จากภาพจำที่คนฟังเคยรับรู้

A : ถามว่าเปลี่ยนแนวไหม มันก็ไม่เปลี่ยนนะมันก็เป็นเรามาตั้งแต่แรก แต่มุมที่เราไม่เคยเอามาให้เขาเห็นและภาพจำต่างๆ คนจะจำภาพแรกจริงๆ นะ เป็นนักร้องสายหวาน เมโลดี้สวยๆความรักบวกๆ ด้วยวัยที่โตขึ้น มุมมองการทำงานก็เปลี่ยนไป เราอยากดึงตรงนี้มาใช้ให้มันมีความเป็นดนตรีมากขึ้น

default column 1205x682 img

Q : มุมมองความรักในตอนนี้เปลี่ยนไปบ้างไหมคะ

A : เปลี่ยนไปตามวัยนะ เพราะว่าพอมีครอบครัวแล้ว ซึ่งตอนนี้มีลูกน้อยอีกสองคนแหละ อีกคนเพิ่งคลอดได้เดือนครึ่ง พอมีลูกแล้วมันเปลี่ยนไปเยอะมาก มีความเป็นพ่อเข้ามาก็จะเป็นความรักอีกแบบแล้ว มันก็จะวุ่นจนเราไม่มีเวลาที่จะมานั่งหวานแหว๋ว (หัวเราะ) เอาความรักไปให้ลูก ครอบครัวพี่เป็นคนที่เลี้ยงลูกกันเอง ไม่ได้จ้างคนมาช่วยเลี้ยงนะ คืออยากให้ลูกเขาอยู่กับเราให้มากที่สุด ตอนนี้ทำงานเพลง เลี้ยงลูก แน่นเวลาก็หมดแล้ว

ฟังเพลง “การเดินทางที่ไม่มีจุดหมาย” จาก โอ้ เสกสรรค์ ได้ก่อนใครที่นี่!