K.A.R.D สูตรเก่าในขวดใหม่ที่น่าสนใจของวงการเพลงเกาหลี
ถ้ามองไปถึงสูตรการสร้างไอดอลสักวงของวงการบันเทิงเกาหลีในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าสิ่งหนึ่งที่หลายคนสังเกตเห็นก็คือจำนวนสมาชิกในแต่ละวงที่มากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าเวลาขึ้นเวทีโชว์บนรายการเพลงสุดสัปดาห์ แทบจะล้นออกมาจากเวทีเลยทีเดียว ทั้งวงผู้ชายและวงผู้หญิง แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีวงไอดอลรุ่นใหม่ที่สร้างแตกต่างเกิดขึ้น นอกจากจำนวนสมาชิกที่มีเพียงแค่ 4 คน การรวมตัวของวงนี้ยังผสมทั้งเพศชายและหญิง ซึ่งเป็นโมเดลที่เคยรุ่งเรืองของวงการเพลงเกาหลีในช่วงปลาย 80’s ถึงต้นยุค 90’s และโมเดลนี้ก็สูญความนิยมลงไป จน DSP ค่ายเพลงระดับกลางของเกาหลีนำมันกลับมาอีกครั้ง กับวงที่ชื่อว่า K.A.R.D
K.A.R.D เป็นวงที่ประกอบด้วยชายสองหญิงสอง ฝั่งชายประกอบด้วย บีเอ็มและเจเซฟ ส่วนฝ่ายหญิงประกอบด้วย จีวูและโซมิน โดยแต่ละคนจะมีความพิเศษที่เปรียบเสมือนไพ่ไม้ตายจนกลายเป็นที่มาของชื่อวง ในครั้งแรกที่พวกเขาเปิดตัว เรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์ขนาดย่อมๆ ให้กับวงการเพลงเกาหลีเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างที่กล่าวในย่อหน้าแรก วงการไอดอลของเกาหลีขาดวงลูกผสมมานานหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่วงลูกผสมยุคหลังๆ มักจะเป็นวงที่ออกในลักษณะของโปรเจ็กค์พิเศษมากกว่าจะกลายเป็นวงถาวร ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ K.A.R.D กลายเป็นวงที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น
แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะทำให้วงนี้น่าจับตามากยิ่งขึ้นก็คือ สไตล์เพลงของวงที่ถูกปล่อยออกมา เพราะวงนี้เลือกที่จะสร้างความแตกต่างด้วยการใช้ลูกเล่นในสไตล์ Latin–Pop กลิ่นอายของเพลงแถบประเทศอเมริกาใต้ได้กลายเป็นตัวชูโรงและสร้างแฟนคลับให้มากขึ้นเรื่อยๆ
Oh NaNa เป็นเพลงชิมลางที่ทำให้หลายคนหลงใหลวงนี้ โดยเฉพาะแฟนคลับจากชาติตะวันตก จุดเด่นที่น่าสนใจของเพลงนี้ก็คือ การใช้ความเป็น Latin–Pop ผนวกเข้ากับความเป็น Hip–Hop ที่หนักแน่นจากท่อนแรพของบีเอ็มและเจเซฟ ส่วนสาวจีวูและโซมินก็ใช้วิธีการร้องแบบ R&B ได้อย่างมีเสน่ห์ ถ้าจะถามว่าวงไหนที่มีเพลงเปิดตัวที่โดนใจในบรรดาวงไอดอล ก็ต้องบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่หลายคนพูดถึง
จากเพลงเปิดตัวที่ทำให้วงกลายเป็นกระแส K.A.R.D ก็ต่อยอดความสำเร็จด้วยเพลงอย่าง Don’t Recall ที่ยังคงไว้ถึงลายเซ็นต์ของวง คือ ดนตรีในสไตล์ละติน หากแต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในเพลงนี้คือเสียงสังเคราะห์ในแบบ EDM ที่สร้างความแปลกใหม่และลงตัวกับความเป็นละตินที่มีอยู่ เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดที่น่าสนใจ
นอกจากส่วนผสมของสมาชิกในวงที่แปลกใหม่และแนวดนตรีที่หลายคนได้ยินก็จะเอ่ยชื่อวงออกมาโดยอัตโนมัติ สิ่งหนึ่งที่ควรจะพูดถึงก็คือท่าเต้นที่ดูแปลกประหลาดแต่ดันจำง่าย ในเพลง RUMOR เป็นเพลงที่มีท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ แฟนคลับเกาหลีชาวไทยหลายคนบอกว่าท่าเต้นในเพลงนี้ เหมือนท่อนรำเซิ้งของเพลงหมอลำตามเทศกาลสงกรานต์ แต่ในความแปลกประหลาดของมัน ได้ช่วยทำให้เพลงและท่าเต้นในเพลงของวงนี้กลายเป็นที่พูดถึงและค่อยๆ ติดตลาดอย่างเหนียวแน่น
ใน 3 บทเพลงข้างต้น ต้องบอกว่ามันยังเป็นเพลงชิมลางทั้งสิ้น เพราะในช่วงเวลาที่ต้นสังกัดปล่อยเพลง 3 เพลงนี้ ทางวงยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศบ้านเกิดอย่างเกาหลี จนสุดท้ายในช่วงกรกฏาคม 2017 ที่ผ่านมา พวกเขาทั้ง 4 ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศบ้านเกิดผ่านบทเพลง Hola Hola ซึ่งเป็นเพลงที่เข้ากับช่วงเวลาซัมเมอร์ที่เกาหลีพอดิบพอดี นอกจากลายเซ็นที่ยังคงชัดเจนของวงอย่างเพลงในสไตล์ละติน ความเป็น Hip–Hop และลูกเล่นความเป็น EDM เราจะได้ยินศักยภาพของสมาชิกในวงที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะสาวจีวูที่ในเพลงนี้รับหน้าที่แรพให้แฟนเพลงได้ฟัง ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนสาวโซมินก็ใช้เสน่ห์เฉพาะตัวของตัวเองได้อย่างน่าสนใจด้วยภาพลักษณ์สดใสรับกับบรรยากาศซัมเมอร์ และสองหนุ่มอย่างบีเอ็มและเจเซฟก็ทำหน้าที่แรพเปอร์และสายแดนซ์ของวงได้อย่างเข้มแข็งและดุดัน
ท่ามกลางกระแสในแง่บวกที่หลายคนพูดถึง ดูเหมือนว่า K.A.R.D ก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบอยู่ในหลายประเด็น ประเด็นหลักที่หลายคนพูดถึงโดยเฉพาะบรรดานักวิจารณ์เพลงก็คือ ในบรรดาเพลงทั้งหมดของวงที่ปล่อยมาตั้งแต่เพลงชิมลางจนเพลงโปรโมทล่าสุด มันมีโครงสร้างของเพลงที่คล้ายกันมากจนเกินไป จนหลายคนให้ฉายาว่าวงร้อยเนื้อหนึ่งทำนอง ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่เชื้อเชิญให้บรรดาชาวเน็ตเกาหลีมุ่งโจมตีก็คือ เคมีของชายหนุ่มและหญิงสาวในวงที่ดูเกินเลยความเป็นเพื่อนไปไกล ซึ่งคนเกาหลีหลายคนมองว่าวงไอดอลไม่ควรแสดงออกเรื่องเพศตรงข้ามชัดเจนเกินไป แถมต้นสังกัดเองก็ดูจะตั้งใจชงจนเกินเลย มันจึงกลายเป็นโจทย์ที่ยากและหินของต้นสังกัดในการที่จะทำให้วงนี้พ้นจากคำครหาที่กลายเป็นเป้าโจมตีสำคัญของวง
แต่ท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง หลังจากปล่อยเพลงมาให้ได้ฟังตลอดทั้งปี วง K.A.R.D กลายเป็นวงที่สามารถจัดทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศต่างๆ นอกเกาหลีได้อย่างมากมายและมีแฟนคลับคอยต้อนรับอย่างหนาแน่น
ดังนั้นโจทย์ที่ทางต้นสังกัดจะต้องทำให้ได้ในอนาคตคือการสร้างฐานแฟนในประเทศบ้านเกิดอย่างเกาหลีให้สมดุลกับฐานแฟนนอกประเทศซึ่งให้การสนับสนุนอย่างมากมาย และสไตล์เพลงที่ควรเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาให้ลงตัวกับลายเซ็นของวงที่แข็งแรง เรียกได้ว่าโจทย์นี้จะเป็นโจทย์ที่ทาง K.A.R.D และต้นสังกัดจะต้องสามารถฝ่าฟันและก้าวข้ามมันไปให้ได้ เพื่อให้ K.A.R.D กลายเป็นวงลูกผสมยุคใหม่ที่ขึ้นมายืนอยู่บนแถวหน้าของวงการเพลงเกาหลีในอนาคต
