นั่งคุยกับ 4 หนุ่มหล่อ Summer Stop กับอัลบั้มแรกของพวกเขา
ในที่สุดก็ปล่อยออกมาแล้วสำหรับ Freeze อัลบั้มเต็มแรกในชีวิตของ 4 หนุ่มจากวง Summer Stop แห่งค่ายห้องเล็กๆ อย่างสมอลล์รูม ที่ใช้ว่าเวลากว่า 4-5 ปีในการบ่มเพาะและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางดนตรีเพื่อมาทำอัลบั้ม แถมอัดแน่นถึง 15 เพลงให้สำหรับคนที่คิดถึงพวกเขาได้ฟังกันอย่างจุใจ โดยวันนี้เราได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับอัลบั้มนี้ พร้อมพ่วงด้วยเรื่องอื่นๆ ของวงด้วยครับ
สมาชิก (จากซ้ายไปขวา)
เอิง - ดนุพรรษ์ ยาท้วม (กีต้าร์, ร้อง)
โดม - ธิติภัทร รวมทรัพย์ (กลอง)
เอย - ธนพรรษ์ ยาท้วม (กีต้าร์, ร้อง)
แมว - วัฒน์สุ สิทธิปิยะสกุล (ซินธิไซเซอร์)
ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่าทั้ง 4 คนมารวมตัวกันยังไง ?
เอิง: เริ่มจากเอิงและเอยก่อนครับ เราอยู่บ้านเดียวกันครับ ตอนแรกจะทำเพลงแค่สองคน ทำไปทำมา ผมไปเจอแมว แมวเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย อยู่ชุมนุม TU Folksong เหมือนกัน เห็นเล่นคีย์บอร์ด แล้วเราก็อยากได้ในเพลงพอดี ก็เลยชวนมาเล่นด้วย พอเล่นปุ๊บก็ชวนเข้าวงเลย
ส่วนโดมนี่คือ มาทีหลังตอนที่ส่งเดโม่ที่ค่ายสมอลล์รูมเรียบร้อยแล้ว
แมว: ต้องบอกว่าโดมเด็กกว่าเราประมาณ 3-4 ปี เด็กสุดในวงเลย
แล้วที่มาของชื่อวง Summer Stop ล่ะครับ
เอย: มันมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ตั้งวงเลย ก็คือ เราตั้งใจว่าจะทำเพลงที่มันมีเมโลดี้ที่ฟังแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศหนาวๆ เย็นๆ อะไรแบบเนี้ย
ยกตัวอย่างเพลงของค่ายเบเกอรี่ยุคแรกๆ ที่เริ่มฮิตอ่ะ มันจะมีความรู้สึกเหมือนเพลง ห่างไกลเหลือเกิน หรือว่าเพลงอื่นๆ ของ พี่บอย - โกสิยพงษ์ หรือจะเป็นของค่ายสมอลล์รูมเอง ก็จะมีเพลง แต่งงาน ประมาณนั้นอ่ะ เราตั้งใจทำเมโลดี้แบบนั้น ในดนตรีที่ใหม่ขึ้น
คือถ้าเพลงของเราจะพูดถึงฤดูหนาวไปเลยมันจะรู้สึกตรงไปหน่อย Winter Start เงี้ย ก็จะตรงเกินไป เลยเป็น Summer Stop แทน
แล้ว Summer Stop มีส่วนผสมของฤดูอื่นด้วยหรือเปล่า ?
เอย: ตอนหลังนี่คือมีแล้ว ตอนแรกเราตั้งใจจะไม่มี พอวงทำๆไปก็รู้สึกว่ามันมีฤดูอื่นด้วย มีฉีกออกมาบ้างเยอะอยู่ประมาณนึง แต่ว่ามันก็ยังมีกลิ่นที่ติดมาในอัลบั้ม
อะไรที่เป็นจุดเด่นเมื่อพูดถึงก็รู้เลยว่านี่คือ Summer Stop แน่นอน
เอิง: แมวครับ
แมว: ถูกต้องครับ เอ้า! ไม่ใช่ เราว่าถ้าเป็นกายภาพเลยก็น่าจะเป็นเรื่องแฝดแหละ เราเป็นวงที่มีแฝดอยู่ เป็นแฝดสองคู่ เอิงกับเอย และ แมวกับโดม คนละคู่เลย
เอย: ถ้าเป็นเรื่องเพลง จะเป็นเรื่องของซินธิไซเซอร์ (Synthesizer) เป็นวงที่ซินจัดเลย
แมว: เป็นวงที่บาปจัด
ทุกคน: ไม่ใช่! นั่นมัน Sin!!!
แมว: นอกจากนั้นคงจะเป็นเรื่องบรรยากาศของเพลง พวก Element ทางดนตรี การสร้างบรรยากาศ หรือเสียงสังเคราะห์ต่างๆ (พี่แมวตอบหลังจากเล่นมุกไปเรียบร้อยแล้ว)
ทุกวันนี้มียังมีคนทักผิดระหว่าง เอิงและเอย มั้ยครับ
โดม: ในค่ายก็ยังมีครับ เยอะเลย
ในระหว่างนั้นพี่ดิม นักร้องวง Tattoo Colour เดินเข้ามาในห้องที่เราสัมภาษณ์ พี่เอิงก็เลยถามพี่ดิมว่า จำได้มั้ย คนไหนเอิง คนไหนเอย ปรากฏว่าพี่ดิมตอบผิด
เอิง: นั่นแหละครับคือคำตอบว่ายังมีคนทักผิดมั้ย
ดิม: ความใฝ่ฝันของเรา จะต้องเรียกชื่อพวกนายให้ถูก!
นอกจากการเล่นดนตรี แต่ละคนชอบทำอะไรอย่างอื่นอีกบ้าง
เอย: พวกเราชอบเตะบอลครับ พวกเราเตะกันทุกวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ แถวนี้นี่แหละ แต่ว่าตอนนี้คุณเอิงเตะไม่ได้ ตอนนี้มันเจ็บขา
เอิง: เจ็บมาเกือบปีแล้วเนี่ย เห็นพี่โดมไม่ค่อยพูด เราก็บังคับซะเลย และเราก็ได้คำตอบจากพี่โดมว่า...
โดม: กินเนื้อย่างครับ (ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน)
แมว: ช่วงนี้ก็ฝึกทำอาหารนะ แต่ยังทำไม่เก่ง ก็มีออกกำลังกายบ้างด้วย แต่เราไม่ใช่พวกบ้าขนาดเล่นหนักนะ แค่อยากเพิ่มน้ำหนักเฉยๆ
กว่าจะคลอดออกมาเป็นอัลบั้ม Freeze ให้ได้ฟังกัน
เอิง: ผ่านเวลามาสี่ปีกว่ากับการที่มาอยู่ที่ค่ายสมอลล์รูม เราปล่อยซิงเกิ้ลแรก (เพลง อยากฟัง) ตอนปี 2012 นี่ก็ 2017 แล้ว โอ้โห! มันนานมาก แต่ตอนที่เริ่มตั้งใจว่าจะมีอัลบั้มจริงๆมันประมาณ สองสามปีเอง
สองปีที่ผ่านมาเนี่ย เราใช้ชีวิตแบบนอนเช้า เพื่อจะทำอัลบั้มให้เสร็จ อันนี้ที่คือผ่านความลำบากมาครับ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นก็อย่างเช่น ปีหลังๆเราฟังเพลงเยอะขึ้น เพื่อเป็นวัตถุดิบมาทำอัลบั้ม แล้วก็ออกไปดูคอนเสิร์ตบ้าง
ช่วยเล่าการทำงานภายในอัลบั้มนี้ให้ฟังหน่อยครับ
เอย: หลักๆเนื้อและเมโลดี้จะมาจากเอิงเอยก่อนเลย ในอัลบั้ม Freeze เนี่ยจะมีสามเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลที่เคยปล่อยออกไปก่อนหน้านี้แล้ว สามเพลงนั้นเนี่ย แต่งเนื้อทำนองด้วยกัน แล้วแมวกับโดมก็จะเข้ามาช่วยกันเรียบเรียง
แต่หลังจากสามเพลงนั้นมา เอิงกับเอยจะแยกกันแต่ง เป็นเมโลดี้และร้องมา เสร็จปุ๊บก็จะมาคุยกับวงว่าอยากได้ยังไง และคุณเอิงกับคุณแมวเนี่ยจะเป็นตัวหลักเวลาเรียบเรียง และที่เหลือก็จะมาช่วยๆ กันดู
ใครที่เป็นคนเขียนเนื้อกับทำทำนองเพลงไหน คนนั้นก็จะเป็นคนร้องในอัลบั้ม ถ้าไปดูเครดิตว่าใครเป็นคนเขียนเนื้อร้องหรือทำนอง ก็จะบอกได้เลยว่าเพลงนี้เอิงร้องหรือเอยร้อง
แล้วก็จะมีพี่แมว The Jukks และพี่รุ่ง มาช่วยเขียนเนื้อ ช่วยตบเนื้อเพลงของเราให้สมเหตุสมผลและมีอะไรมากยิ่งขึ้น และก็จะมีพี่นิ้ม พี่เทอดจะเป็นคนช่วยเทคนิคการอัด
แนวทางของดนตรีในอัลบั้มนี้เป็นอย่างไรครับ
เอย: ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ มันจะมีการเอาสามเพลงก่อนหน้าที่เป็นซิงเกิ้ลมาร่วมอยู่ในนี้ด้วย ก็จะมี เราเคยรักกัน, ไม่เปลี่ยน และ อยากให้เป็นอย่างนี้ทุกวัน ในสามเพลงเนี้ย เพลงที่เป็น Direction ที่ตรงกับ Direction ใหม่เซ็ตหลังของวงมากสุดก็คือ เราเคยรักกัน
แมว: ถ้าให้พูดศัพท์ใหญ่เลยมันก็คือป็อบอ่ะ แต่ว่าเราก็อาจจะเรียกว่ามันเป็นอัลเทอร์เนทีฟ เป็นป็อบทางเลือกที่ฉาบด้วย Element ของพวกซินธิไซเซอร์ คือเราก็ไม่อยากจะบอกว่าเราเป็นซินธ์ป็อปเต็มตัวขนาดนั้น เพราะเราไม่ได้ฝังชัดว่าเป็นซินธ์ป๊อบแบบ Polycat ที่เป็น 80’s เงี้ย
โดม: เพราะวงเราก็มีความเป็นกีต้าร์แบนด์อยู่นะ
แมว: ใช่ เราพยายามให้มันเป็นกีต้าร์แบนด์แหละ เพราะว่าด้วย movement ที่อยากจะเล่นตอนเล่นสดหรืออะไรก็ตาม เราพยายามจะคิดกว้างๆ สรุปถ้าถามว่ามันคือแนวอะไร มันก็คือป็อบแหละ หรืออัลเทอร์เนทีฟ
ขอถามพี่แมวครับ การนำเสียงสังเคราะห์มาปรับใช้ มันมีความยากง่ายแค่ไหน
แมว: คืองี้นะ ของ Summer Stop อ่ะ Element ทั้งหลาย แม้กระทั่งกีต้าร์ ถ้าสังเกตดีๆ ในอัลบั้ม มันจะกึ่งๆ ไปในทางที่เป็นกีต้าร์ซินธ์นะ
เอิง: คือมันไม่ใช่เสียงกีต้าร์แบบปกติอ่ะ
แมว: ใช่ บางทีมีการ Dub เสียงกีต้าร์ที่เป็นซินธ์เข้าไปด้วย ถามว่ายากมั้ย เราว่ามันยากแบบนึงแหละ ก็คือเวลาเราทำ เราจะมองว่ามันเป็นกระดาษขาวผืนนึง อย่างสมมติพี่เอิงพี่เอยแต่งเพลงมา อย่างเพลงนี้พูดถึงคน เขาจะวาดรูปคนมาให้เราเป็นลายเส้น แล้วเราก็มองว่าเราจะใส่สีลงไปยังไงดี เราจะให้คนนี้ดูคูลดูน่ารัก หรือจะให้ดูเท่ อันนี้เราอธิบายให้เห็นเป็นภาพนะ
ซึ่งเพลงไหนถ้าแต่งมาพร้อมกีต้าร์ด้วยเนี่ย เราก็จะมองว่ารูปคนนั้นอ่ะ ไม่ใช่คนก้างปลา แต่รูปนั้นเป็นคนที่มีลายเส้นแล้ว มีทรงผม มีหน้า มีเค้าโครง บางคนมีกล้าม มันมีภาพมาแล้ว เราก็มีหน้าที่แค่เติมแต่งสี
เราจะพยายามมองภาพกว้างก่อน พอเริ่มแต้มแล้วเราจะรู้โทนสี เหมือนเราเลือกโทนสีมาอ่ะ โทนแม่สีมาแล้วเราก็จะอยู่ในโทนนั้น ขึ้นอยู่กับความลงตัวแหละ บางทีทำมาแล้วเราก็ไม่ชอบ ความยากมันอยู่ตรงนี้ด้วย
เรื่องราวใน Freeze เปรียบเสมือนหนังหนึ่งเรื่อง
เอย: จริงๆ มันค่อนข้างยากหน่อยเพราะอย่างน้อยมันก็แต่งด้วยคนสองคน แล้วก็เราก็ไม่ค่อยได้กำกับร่วมกันเท่าไหร่ เราก็มองว่าคนเขียนเพลงเป็นผู้กำกับนั่นแหละ เราคิดว่ามันมากำกับร่วมกันจะเป็นเรื่องการเรียบเรียงซะมากกว่า
พอมาฟังรวมๆมันค่อนข้างไปด้วยกันได้ แต่จริงๆตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่ามันจะเป็นเรื่องใกล้ๆกัน แต่ด้วยธรรมชาติหรืออะไรซักอย่างมันออกมาแล้วไปด้วยกันได้
เราคิดว่าถ้ามองมันเป็นหนังเรื่องเดียวได้มั้ย? เหมือนเราจะจับมันออกมาให้เป็นหนังชุดแบบซีรี่ย์มากกว่าหนังหนึ่งเรื่องนะ เป็นตอนๆ ไป
เพลงไหนที่อยากแนะนำให้ชาว JOOX ฟังเป็นพิเศษครับ
หลังจากถามคำถามนี้ไปทั้งสี่หนุ่มสุมหัวกันเลือกเพลงกันอย่างเคร่งขรึม
เอิง: เราว่าเพลงที่คิดตรงกันมากที่สุดน่าจะเป็นเพลง เจอหน่อย
เอย: คือเราเคยคุยกันไงว่าถ้าต้องเลือกปล่อยเพลงเดียวจะปล่อยเพลงอะไร ก็เลือก เจอหน่อย นี่แหละ เพราะรู้สึกว่ามันสามารถบอกอะไรหลายๆ อย่างของวงได้
เอิง: เราว่าเป็นเหมือนเพลงที่สามารถนำพาไปสู่หลายๆ เพลงในอัลบั้มได้แหละ
นอกจากอัลบั้มเต็มที่เพิ่งจะปล่อยออกไป ยังอะไรที่จะเซอร์ไพรส์แฟนเพลงอีกมั้ยครับ
โดม: เป็นงานปาร์ตี้เปิดอัลบั้มครับ ซึ่งเราก็จะมีวงเปิด แต่ขออุบไว้ก่อน ในงานนี้เราจะเล่นเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม Freeze แน่นอน
เอย: เวลาเท่าไหร่ก็จะเล่นมันให้หมดนั่นเลย เลทก็จะเล่น
แมว: ตำรวจมาเราก็จะเล่น (เดี๋ยวนะพี่แมว)
เอิง: งานนี้เราจะทำตามใจตัวเองให้มากที่สุดครับ
สุดท้ายนี้อยากให้ทางวงฝากผลงานหน่อยครับ
แมว: ตอนนี้ครับ Summer Stop มีผลงานออกมาแล้ว ไม่ใช่แค่เพลงเดียวนะ ออกมาทั้งอัลบั้มเต็มเลย อยากให้ลองฟังดู ถ้าเป็นไปได้ฟังทั้งอัลบั้มไปเลย ชอบใจก็สนับสนุนเพลงของพวกเราให้เข้าไปอยู่ในชาร์ทของ JOOX จะขอบคุณมากเลยครับ
เอย: ขอฝากไว้ครับ เดี๋ยวไปเจอกันตามงานโชว์นะครับ ถ้าชอบเพลงไหนก็ไปร้องตามด้วยกัน
โดม: ฝากอัลบั้มครับ ใช้เวลาประมาณสี่ปีกว่าถึงห้าปี คิดว่าการที่คนเราใช้เวลาทำสิ่งๆ นึงเป็นเวลาห้าปีน่าจะสามารถบ่งบอกได้ว่าเราตั้งใจทำมันจริงๆ จนมันสำเร็จออกมา จนตอนนี้มันมีอัลบั้ม Freeze ออกมาให้ได้ฟังกัน ถ้าชอบฝากสนับสนุนกันด้วยนะครับ
เอิง: ครับ เออ พูดกันไปหมดแล้วนี่ ฮ่าๆๆ เราว่าเราทำอัลบั้มนี้เสร็จแล้วเรารู้สึกชอบและรู้สึกภูมิใจกับมันมาก อยากให้คนอื่นชอบด้วยแหละ แต่ไม่รู้ว่าจะชอบกันมั้ย เพราะฉะนั้นไปลองฟังกันครับ ถ้าชอบเราดีใจมาก มี Feedback กลับมาด้วยจะดีมาก ก็ขอฝากชาว JOOX ด้วยนะครับ
ว่าแล้วเราก็ไปเสพอัลบั้มเต็มของ Summer Stop กันเลยดีกว่า!
ขอขอบคุณวง Summer Stop ที่สละเวลามานั่งคุยกับเราครับ
