5 เพลงเกาหลีที่ฮิตและควรฟังเวลาฝนตก
เกาหลีเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของการฟังเพลงตามฤดูกาล มีบทเพลงมากมายที่กลายเป็นเพลงฮิตเหนือกาลเวลา เพราะมันถูกเปิดครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อแต่ละฤดูกาลเวียนวนมาถึงอีกครั้ง และฤดูฝนเป็นอีกหนึ่งฤดูที่มีบทเพลงมากมายที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อขับเน้นอารมณ์ความรู้สึกยามเมื่อสายฝนโปรยปราย และทั้ง 5 เพลงที่เรายกมา ก็กลายเป็นบทเพลงที่หลายคนต่างกลับมาฟังมันอีกครั้งจนกลายเป็นเพลงฮิตประจำฤดูฝนไปเรียบร้อยแล้ว
1. Rain Drop – IU
บทเพลงจากศิลปินหญิงที่ได้รับฉายาจากคอเพลงเกาหลีว่า “เจ้าแม่ชาร์ตเพลง” และ “ดิจิตอลควีน” อย่างสาว IU ได้ทำให้เพลงอย่าง Rain Drop กลายเป็นเพลงที่กลับมาเข้าชาร์ตใหม่เสมอยามเมื่อฝนตก
ส่วนประกอบสำคัญของเพลงนี้ คือ เนื้อร้องที่พูดถึงช่วงเวลาสำคัญของคนสองคนที่มาเจอกันในวันที่ฝนตก เนื้อหาที่แสนโรแมนติกไปได้กันด้วยดีกับดนตรี Pop – Folk การใส่ลูกเล่นเสียง Ambient คล้ายกับเสียงฝนตก ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่คนมักสตรีมจนมันขึ้นชาร์ตเสมอๆ นอกจากเสน่ห์จากเนื้อร้องและงานในภาคดนตรี เสียงของตัว IU เองในเพลงนี้ก็เป็นเสียงที่หวานใสและน่ารัก ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาในเพลงและสไตล์ดนตรีที่กลมกล่อมมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่ควรค่าแก่การฟังในฤดูฝนจริงๆ
2. Walkin’ In The Rain – Block B
ในบรรดาวงบอยแบนด์รุ่นใหม่ ดูเหมือนว่า Block B จะกลายเป็นวงลำดับต้นๆ ที่ทำยอดขายและทำชาร์ตได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ในปัจจุบัน คาแรกเตอร์ของวงที่ผสมผสานความเป็น Pop กับ Hip–Hop ได้อย่างลงตัว ทำให้เมื่อใดก็ตามที่วงนี้ปล่อยเพลงออกมา ก็สามารถกวาดรางวัลและคว้าอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงเกาหลีได้เสมอ
สำหรับ Walkin’ In The Rain ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ทางวงได้ผสมผสานความเป็น Pop และ Hip–Hop ได้อย่างพอเหมาะพอดี เนื้อเพลงที่พูดถึงชายหนุ่มที่กำลังงอนง้อแฟนสาวได้ช่วยทำให้ความเป็น Hip–Hop ของวงนี้ลดความแข็งกร้าวลง แถมการใช้เสน่ห์ของ Dream–Pop เข้ามาก็ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่น่ารักและสามารถฟังเพลินๆ ยามเมื่อเราหลงลืมคนข้างกายกลางทางยามเมื่อฝนพร่ำและเราต้องทำให้เขาคนนั้นหายโกรธให้เร็วที่สุด ใครจะไปคิดว่าจากวงที่มีคาแรกเตอร์แสบซ่า เมื่อทำเพลงเพื่อสไตล์น่ารักในแนวทางนี้ มันจะกลายเป็นเพลงฮิตอีกเพลงประจำฤดูฝนไปแล้ว
3. Rain – Soyou;BAEKHYUN (EXO)
อีกหนึ่งเพลงที่ได้สองศิลปินแถวหน้าของวงการเพลงเกาหลีมาร่วมงานกัน คนแรกคือสาว Soyou หนึ่งในนักร้องเสียงหลักของวง Sistar ส่วนอีกคนคือหนุ่ม BAEKHYUN จากวง EXO ซึ่งทั้งคู่ก็อยู่คนละค่าย มันจึงทำให้เพลงนี้เป็นเพลงของการทำงานต่างค่ายจากสองศิลปินที่ประสบความสำเร็จเพลงหนึ่งในเกาหลีเลยทีเดียว
ตัวเพลง Rain เป็นเพลงในแนวสไตล์ R&B–Ballad ที่ใส่ความเป็นตัวของตัวเองจากสองศิลปินได้เป็นอย่างดี สาว Soyou ขึ้นชื่อในการร้องสไตล์ R&B เสียงที่มีความแหบเสน่ห์ของเธอเป็นเสมือนภาพตัวแทนความคิดของผู้หญิงในการรอคอยใครสักคนในคืนฝนตก ส่วนหนุ่ม BAEKHYUN ก็เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ร้องเพลงในสไตล์ Ballad ได้อย่างกินใจ เสียงที่ใสกังวานและเต็มไปด้วยอินเนอร์ของเขา ได้ให้ภาพของชายหนุ่มที่เลือกจะจากลาคนรักในคืนฝนตกซึ่งมันถูกแสดงออกอย่างเจ็บปวด จากอินเนอร์และสไตล์ที่แตกต่างแต่ลงตัวของทั้งสอง มันจึงทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในทุกชาร์ตเพลงและกลายเป็นเพลงอกหักสำหรับฤดูฝนไปแล้ว
4. Rain – TAEYEON
เมื่อพูดถึงศิลปินหญิงจากวงไอดอลชื่อดังที่ตอนนี้คอเพลงหลายคนรอคอยงานเดี่ยวอยู่เสมอๆ ชื่อของสาว TAEYEON ได้กลายเป็นชื่อในลำดับต้นๆ ที่หลายคนรอคอย เพราะเธอได้ผันตัวเองจากไอดอลสาวลุคสดใสสู่การเป็นศิลปินหญิงที่เล่าเรื่องราวอันเจ็บปวดของผู้หญิงได้อย่างลึกซึ้งและคมคายเป็นอย่างยิ่ง
เพลง Rain ของสาว TAEYEON ดูจะเป็นเสียงฝนที่แสนจะอ้างว้างและเต็มไปด้วยความเศร้า เนื้อหาในเพลงพูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนและเธอได้มองย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่ความรักยังคงหวานชื่น ภายใต้เนื้อหาของเพลงที่เต็มไปด้วยความเศร้า การที่ดนตรีในเพลงเป็นแนว Pop–R&B ได้ช่วยผ่อนอารมณ์ที่หน่วงๆ ให้อยู่ในระดับที่ฟังซ้ำบ่อยๆ ได้ นอกจากเนื้อเพลงและสไตล์ดนตรีที่กำลังพอดิบพอดี การร้องของสาว TAEYEON ก็ปรับเปลี่ยนสไตล์ที่ไม่จำเป็นต้องไฮโน้ตสูงๆ ยามเมื่อครั้งอยู่ในวง SNSD แต่เธอได้ร้องราวกำลังบอกเล่าความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างไม่มากไปและน้อยจนเกินไป เป็นความพอดีที่ควรค่าแก่การฟังเป็นอย่างมาก
5. Rain Drop – Standing Egg
แม้ชื่อเพลงจะเหมือนกับชื่อเพลงของสาว IU แต่เพลงนี้ได้สร้างความแตกต่างและสร้างลายเซ็นของวงอินดี้ชื่อดังอย่าง Standing Egg อย่างชัดเจน
สไตล์ที่ตรงไปตรงมาและถือว่ากลายเป็นลายเซ็นสำคัญของวงนี้ คืองานดนตรีในแนว Easy Listening ที่ใช้เพียงเสียงกีต้าร์และเครื่องดนตรีอย่างเปียโนเป็นตัวชูโรง แม้เนื้อหาในเพลงจะพูดถึงความโดดเดี่ยวของหญิงสาวในคืนฝนตก แต่ดนตรีกลับฟังง่ายและปราศจากความฟูมฟาย มันจึงทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่แสนจะน่ารักและมีความละมุนละไม ด้วยดนตรีที่ฟังง่ายไปด้วยกันได้ดีกับเนื้อเพลงที่ซ่อนความเหงาอยู่ลึกๆ ท่อนฮุคในเพลงยังติดหูพอควร เพราะการใช้เสียง “ตุกตุกตุก” ซึ่งเป็นอีโมติค่อนที่คนเกาหลีใช้เวลาฝนตก มันจึงให้ภาพการรอคอยที่เป็นแง่บวกและทำให้เราสามารถเปิดฟังเพลงนี้วนไปวนมาได้อย่างไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว
บทเพลงทั้งห้าทำให้เรามองเห็นการตีความสายฝนที่ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ฤดูฝนอันอ่อนหวานและเรียบง่าย สู่ฤดูฝนที่แสนเศร้าและดำดิ่ง นอกจากความหมายอันหลากหลายในแต่ละบทเพลง ดูเหมือนว่าวงการเพลงเกาหลีจะให้คุณค่าของช่วงเวลาตามแต่ละฤดูกาลเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เพลงใดเพลงหนึ่งเกิดดังหรือมีกระแสตามฤดูกาล มันจะกลายเป็นเพลงที่คนจะย้อนกลับมาเปิดฟังและกลายเป็นกระแสได้อีกเรื่อยๆ เมื่อวนมาถึงฤดูกาลนั้นๆ นานหลายปีเลยทีเดียว
